เจ้าหน้าที่จีนมีแนวโน้มที่จะชั่งน้ำหนักการตอบโต้ที่เป็นไปได้ต่อสัญญาณที่หลากหลายจากสหรัฐฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้โน้มน้าวความคืบหน้าในข้อตกลงการค้าระยะที่ 1 ในขณะเดียวกันก็ขึ้นภาษีสินค้าจีนอีกครั้ง เสี่ยงที่การต่อสู้อย่างยากลำบากจะผ่อนคลายลงในระดับทวิภาคี ความตึงเครียดทางการค้า ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าของจีนซึ่งให้คำแนะนำแก่รัฐบาลกล่าวกับ Global Times เมื่อวันพุธ
ตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าจีนบางรายการ หลังจากที่การยกเว้นก่อนหน้านี้สิ้นสุดลง และสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ไม่ได้ขยายเวลาการยกเว้นสำหรับสินค้าเหล่านั้น ตามประกาศล่าสุดจาก USTR
ในประกาศ USTR ระบุว่าจะขยายการยกเว้นภาษีสำหรับสินค้า 11 ประเภท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าจีนมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์ที่ตั้งเป้าโดยอัตราภาษี 25 เปอร์เซ็นต์ของสหรัฐที่บังคับใช้ในเดือนกรกฎาคม 2018 ออกไปอีกปี แต่ยกเว้นสินค้า 22 หมวดหมู่ รวมถึงเครื่องปั๊มนมและเครื่องกรองน้ำ จากการเปรียบเทียบรายชื่อโดย Global Times
นั่นหมายความว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะถูกเรียกเก็บภาษี 25 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป
“สิ่งนี้ไม่สอดคล้องกับฉันทามติที่จีนและสหรัฐฯ บรรลุในระหว่างการเจรจาการค้าระยะที่ 1 ว่าทั้งสองประเทศจะค่อยๆ ยกเลิกภาษี แต่ไม่ขึ้นภาษี” เกา หลิงหยุน ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสังคมศาสตร์จีน กล่าว ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าว “ไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอนสำหรับความสัมพันธ์ทางการค้าที่เพิ่งถดถอยลง”
นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สหรัฐฯ ตัดสินใจเพิ่มภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดและต่อต้านการอุดหนุนสูงถึง 262.2 เปอร์เซ็นต์ และ 293.5 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ สำหรับการนำเข้าตู้ไม้และโต๊ะเครื่องแป้งของจีน รอยเตอร์รายงานเมื่อวันพุธ
ที่น่าฉงนยิ่งกว่าคือแรงจูงใจเบื้องหลังการเคลื่อนไหวดังกล่าวซึ่งขัดแย้งกับฉากหลังของข้อตกลงระยะที่หนึ่งและการนำไปปฏิบัติ ซึ่งได้รับคำชมเชยจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เกากล่าว
“จีนจะชั่งน้ำหนักแรงจูงใจที่เป็นไปได้และดูว่าจะตอบสนองอย่างไรหากนี่เป็นเพียงปัญหาทางเทคนิค ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่หากนี่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่จะโจมตีจีน มันจะไม่ไปไหน” เขากล่าว พร้อมสังเกตว่า จีนจะ “ง่ายมาก” ในการตอบโต้
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากภาคธุรกิจและฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ให้ระงับการเก็บภาษีเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มการค้าของสหรัฐฯ กว่า 100 กลุ่มได้เขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้เขาลดภาษีศุลกากร และโต้แย้งว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถึง 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ โดยเฉพาะสายเหยี่ยวจีน เช่น ที่ปรึกษาการค้าของทำเนียบขาว ปีเตอร์ นาวาร์โร ได้ต่อต้านเสียงเรียกร้องดังกล่าว และเน้นย้ำถึงความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าระยะที่หนึ่งแทน
ในถ้อยแถลงเมื่อวันอังคาร กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ และ USTR ได้ระบุความคืบหน้า 5 ประการในการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าระยะที่ 1 ของจีน รวมถึงการตัดสินใจของจีนที่จะยกเว้นภาษีสินค้าอื่นๆ ของสหรัฐฯ เช่น สินค้าเกษตร
“เรากำลังทำงานร่วมกับจีนทุกวันในขณะที่เราดำเนินการตามข้อตกลงการค้าระยะที่หนึ่ง” โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ หัวหน้า USTR กล่าวในถ้อยแถลง“เรารับรู้ถึงความพยายามของจีนในการปฏิบัติตามพันธกรณีในข้อตกลง และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันในเรื่องการค้าต่อไป”
Gao กล่าวว่าจีนยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามข้อตกลงระยะที่หนึ่ง แม้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งในจีนและต่างประเทศอย่างร้ายแรง แต่สหรัฐฯ ก็ควรให้ความสำคัญกับการผ่อนคลายความตึงเครียดกับจีนและไม่เพิ่มความตึงเครียด
“หากพวกเขาเดินผิดทาง เราก็สามารถกลับไปยังจุดที่เราอยู่ในช่วงสงครามการค้าได้” เขากล่าว
แม้ว่าการค้าของจีนจะลดลงอย่างมากในช่วงสองเดือนแรกของปี แต่การนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นหกเท่าเมื่อเทียบเป็นรายปีแตะที่ 6.101 ล้านตัน อ้างอิงจากรอยเตอร์เมื่อวันพุธ
นอกจากนี้ บริษัทของจีนได้กลับมานำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวของสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังจากเจ้าหน้าที่จีนยกเว้นการเก็บภาษี สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในอุตสาหกรรม